|  
  องค์กรต่าง ๆ ไม่ว่าเล็ก หรือ ใหญ่ ถึงแม้ว่าการทำงานในปัจจุบัน ต่างก็ใช้เทคโนโลยี เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว ลดความผิดพลาดแล้ว อย่างไรก็ตาม ก็ยังคงต้องมี "ทรัพยากรมนุษย์"  หรือ  "ทรัพยากรบุคคล" ที่ต้องตัดสินใจ บริหารงาน เพื่อการขับเคลื่อนที่เครื่องจักร กลไก เทคโนโลยี ไม่สามารถทำได้
   การบริหารทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource Management: HRM) 
   เป็นการจัดการที่สำคัญ ตั้งแต่ วิเคราะห์ความจำเป็น สรรหา คัดเลือก ประเมิน พิจารณาระบบการจ้าง และ สวัสดิการ รวมถึงการดูแลจัดการให้สามารถทำงานที่เหมาะสม จนถึงเกษียณ  หรือ  การบริหารการลาออก หรือ ให้ออกของบุคลากร
   แต่สิ่งที่มาควบคู่กัน  และ สำคัญอย่างยิ่งเมื่อบุคลากรเหล่านั้นเข้ามาในองค์กรแล้ว คือ "การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource Development: HRD) คือ การพิจารณาบุคลากรแต่ละระดับ (จนถึง รายบุคคล) ว่าต้องพัฒนาอย่างไร ซึ่งองค์กรจำนวนมาก ไม่ให้ความสำคัญ  หรือ  มีงบประมาณน้อยมากจนไม่สามารถนำไปใช้ได้จริงจัง ด้วยเหตุผลทำนองที่ว่า "เดี๋ยวลงทุนพัฒนาแล้วลาออก" ซึ่งเรื่องนี้เป็นไก่กับไข่ คือ แล้วไม่ลงทุนพัฒนาเลย แล้วองค์กรก็มีบุคลากรที่ย่ำกับที่จะเป็นอย่างไร
   หากองค์กรให้ความสำคัญกับ HRD แล้ว สามารถใช้เทคนิคต่าง ๆ กันได้ ดังนี้
   - การบรรยาย (Lecture)
   - การอภิปรายเป็นคณะ (Panel Discussion)
   - การประชุมปาฐกถา หรือ การประชุมทางวิชาการ (Symposium)
   - การสาธิต (Demonstration) 
   - การสอนงาน (Coaching)
   - การระดมสมอง (Brainstorming)
   - การประชุมกลุ่มย่อย (Buzz Session) 
   - กรณีศึกษา (Case Study)
   - การประชุมใหญ่ (Convention)
   - เกมการบริหาร (Management Game) 
   - การแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing) 
   - การสัมมนา (Seminar)
   - การทัศนศึกษา (Field Trip)
   - การประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) 
   - การฝึกประสาทสัมผัส (SensitivityTraining) 
   - การใช้กิจกรรมสันทนาการ (Recreational Activity) 
   - การฝึกอบรมในงาน (On-the-Job Training) 
   - การฝึกหัดงาน (Apprenticeship Training) 
   - การโยกย้ายสับเปลี่ยนงาน (Job Rotation) 
   - สถานการณ์จำลอง (Simulation Technique  หรือ  Simulators)
   เป็นต้น
   อย่างไรก็ตาม การใช้เทคนิคเหล่านี้เป็นเพียง "เครื่องมือ" ในการดำเนินการ แต่เนื้อหาหัวข้อ ที่สำคัญ คือ ต้องพิจารณาให้เหมาะกับ "ระดับ (Level)" บุคลากรนั้น ๆ ด้วย หากแยกออกเป็น 3 กลุ่ม
   1) ระดับปฏิบัติการจนถึงหัวหน้าระดับต้น (Lower Level)
   ระดับนี้ คือผู้ทำงานส่วนงานย่อย เป็นฟันเฟืององค์กร มักมีความสัมพันธ์กับงานปฏิบัติ งานประจำ งานรายละเอียดทุกอย่าง
   ดังนั้นหัวข้อ และ  น้ำหนักในการพัฒนา =
   50% เกี่ยวกับเนื้องานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
   40% เกี่ยวกับการสื่อสาร ปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน และ หัวหน้างานระดับต้น และ บางส่วนถึงระดับกลาง
   10% เกี่ยวกับ การคิด วิเคราะห์  และ ทำให้เข้าใจแนวทาง นโยบายงาน และ องค์กร
   50% Technical Skill 
   40% Human Skill 
   10% Conceptual Skill
   2) ระดับกลาง และ หัวหน้าระดับกลาง (Middle Level)
   ระดับนี้ คือ ทีมงาน และ ผู้บริหารระดับส่วนงาน เป็นการบริหารงานลงส่วนล่าง  และ มีความสำคัญต่อความสำเร็จในการเชื่อมระหว่างระดับล่าง และ ระดับสูงให้ราบรื่น ครบถ้วน มีประสิทธิภาพ
   ดังนั้นหัวข้อ และ น้ำหนักในการพัฒนา = 
   25% เกี่ยวกับการปฏิบัติงานในบางส่วนที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งเป็นตัวอย่างให้ระดับปฏิบัติการขับเคลื่อนไปได้ดี
   50% ที่ต้องเน้นการสื่อสาร ทำความเข้าใจ สานสัมพันธ์ สั่งการ แนะนำ สอนงาน  และ ชี้แจงแก้ไขให้กับระดับล่าง อีกทั้งทำสรุป วิเคราะห์ นำเสนอ หาแนวทาง  และ พัฒนาวิสัยทัศน์ให้กับระดับสูงเพื่อตัดสินใจต่อไป
   25% ที่ต้องพัฒนาตนให้มีศักยภาพในการคิด วิเคราะห์ วางแผนงาน  และ จัดระบบงานให้พัฒนาตนเตรียมไปเป็นผู้บริหารระดับสูงต่อไป
   25% Technical Skill 
   50% Human Skill 
   25% Conceptual Skill
   3) ระดับสูง และ ผู้บริหารองค์กร (Top Level)
   ระดับนี้ คือระดับบน ผู้บริหารระดับสูง กรรมการบริหาร ที่อาจรวมถึงผู้ถือหุ้น และ เจ้าของ งานสำคัญคือ การกำหนดวิสัยทัศน์ ทิศทาง เป้าหมาย แนวทางการเติบโต และ แก้ปัญหาระดับองค์กร มักจะเชื่อมงานลงบุคลากรระดับกลางเป็นสำคัญ
   ดังนั้นหัวข้อ และ น้ำหนักในการพัฒนา = 
   10% เกี่ยวกับการลงมือปฏิบัติเองบ้าง เพื่อให้เข้าใจงาน หาแนวทางใหม่ ๆ ในการทำงานให้กับองค์กร
   40% เป็นเรื่องการถ่ายทอด การสร้างภาวะผู้นำ การโน้มน้าวจูงใจ การร่วมสื่อสารการแก้ปัญหาใหญ่ ๆ  และ  การเจรจาต่อรอง ทั้งกับในองค์กร และ ภายนอกองค์กร
   50% ที่ต้องเน้น การคิดวิเคราะห์ การพัฒนาวิสัยทัศน์ การวางแผนระยะสั้น กลาง ยาว การหาแนวคิดในการเติบโตของธุรกิจ และ องค์กร การคิดหาแนวทางใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาคน และ งานให้ทันต่อสิ่งแวดล้อม และ การแข่งระดับจุลภาค และ มหภาคในทุกมิติ
   10% Technical Skill 
   40% Human Skill 
   50% Conceptual Skill
   ดังนั้น บุคลากร จำเป็นจะต้องมีการฝึกอบรมพัฒนา แต่ต้องพิจารณาด้วยว่า "เทคนิค HRD" อะไรที่เหมาะสม  และ  "ระดับบุคลากร" คนนั้น ๆ อยู่ระดับใด จึงจะจัด "หัวข้อ"  และ  "น้ำหนัก" ได้เหมาะสม
   ท่านล่ะ ปัจจุบันทำงานอะไร ระดับไหน ได้มีการอบรมพัฒนาตนไหม อย่างไร ถูกต้อง เหมาะสมแล้ว หรือ ยัง
 ด้วยความปรารถนาดี 
  ผศ.ดร.กฤษฎา ตันเปาว์
  10 เมษายน 2564
  
 |